S
 
 

 
ประวิติค่ายตากสิน จันทบุรี
 

ภายหลังจากที่ทหารฝรั่งเศสถอนออกจากเมืองจันทบุรี เมื่อ พ.ศ.2448 บริเวณค่ายทหารที่ในบริเวณค่ายตากสินได้มีการใช้งานสืบต่อมาดังนี้
พ.ศ. 2472 เป็นที่ตั้งของโรงเรียนประชาบาล และบ้านพักของข้าราชการฝ่ายปกครอง
พ.ศ. 2479 เป็นที่ตั้งกองทหารม้า ม. พัน. 4
พ.ศ. 2488 เป็นที่ตั้งของพัน.นย.3 (กองพันทหารราบนาวิกโยธินที่ 3) สาเหตุที่ได้มาตั้งอยู่ในที่แห่งนี้ เพราะทหารนาวิกโยธินได้ทำการรบสมัยเรียกร้องดินแดนคืนจากอินโดจีนของฝรั่งเศส และปฏิบัติงานได้ผลดีทางราชการจึงพิจารณาและมีความเห็นว่าพื้นที่ภาคตะวันออกนี้ควรให้เป็นที่ตั้งของทหารนาวิกโยธิน ต่อมาพ. ศ. 2494 พัน.นย. 3 ถูกยุบ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ทางการเมืองในกรุงเทพฯ ทางราชการได้สั่งให้ทหารบกจำนวน 1 หมวดมารักษาการณ์แทน
พ.ศ. 2497 เป็นที่ตั้งกองป้องกันพิเศษจันทบุรีจำนวน 1 กองร้อย โดยแบ่งอาคารบ้านพักกับทางโรงเรียนพลตำรวจภูธรภาค 2 คนละครึ่ง จนถึงวันที่ 22 ธันวาคม 2499 โรงเรียนพลตำรวจภูธรภาค 2  จึงได้ย้ายออกจากค่ายทหารไปหมดสิ้น
พ.ศ. 2498 ทางราชการได้สั่งขยายกำลังกองป้องกันพิเศษจากกำลัง 1 กองร้อย เป็น 1 กองพัน ชื่อว่าพัน ร.2 นย. เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2498 (จึงกำหนดให้วันที่ 24 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันคล้ายวันสถาปนาของหน่วย)  เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2521 ได้เปลี่ยนเป็นกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 กรมผสมนาวิกโยธิน และในปัจจุบันได้แปรสภาพเป็นกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินตั้งแต่ 1 เมษายน 2532 ซึ่งหน่วยงานนี้ได้รับพระราชทานชื่อที่ตั้งว่า “ค่ายตากสิน” เมื่อ พ.ศ. 2507

     
   
     
  งานสมโภชเมืองจันทบุรีในเดือน มกราคม พ.ศ. 2447
ภายหลังทหารฝรั่งเศสถอนกำลังจากจันทบุรี
 
     
   
     
 

พระบรมราชานุเสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่ในค่ายตากสิน

 
     
   
     
  ภาพมุมสูงของกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1
กองพลนาวิกโยธินหรือค่ายตากสินในปัจจุบัน
 
     
     
         
  ประวัติค่ายตากสิน จังหวัดจันทบุรี ( คลิค )  
  โครงการบูรณะอาคารโบราณสถานในค่ายตากสิน จังหวัดจันทบุรี ( คลิก )  
  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดฯ สยามราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินเปิดอาคารโบราณสถานในค่ายตากสิน จังหวัดจันทบุรี ( คลิก )  
         
   
 
 
 
มูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิม
กองบัญชาการกองทัพเรือ
Copyright @ 2013 http://www.wangdermpalace.org